อบเชย...ไม่เชย ลดน้ำตาล ความดัน ไขมัน

"อบเชย" เป็นยาขนานเอกที่คนไทยใช้บำบัดอาการเจ็บป่วยมาตั้งแต่โบราณ เพียงลอกเปลือกไม้จากต้น อบเชย ต้มในน้ำเดือด ก็กลายเป็นยารักษาอาการไม่ย่อย แก้ท้องเสีย ขับลม ขับพยาธิ หรือหากบดเป็นผงปรุงเป็น ยานัตถุ์ ก็สาารถใช้แก้อาการ ปวดศีรษะ แก้ไข้ แก้ไอ อ่อนเพลีย ไปจนถึงโรยบนบาดแผลเปิด เพื่อช่วยห้ามเลือดและเร่งการสมานแผล

ครั้นเวลาล่วงเลย ทำงสรรพคุณ กลิ่นหอมนุ่นนวล และรดขมฝาดของอบเชยยังคงตรึงใจผู้คน จึงกลายเป็นหนึ่งเครื่องเทศเพื่อสุขภาพ และได้รับการพัฒนา เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย

วันนี้เรามารู้จักกับประโยชน์อีกมากมายของอบเชย แล้วจะรู้ว่า อบเชย ไม่เชยเหมือนชื่อนะจ๊ะ

อบเชยพิชิตโรคอ้วนลงพุง
อีกครั้งที่โรคสมัยใหม่อย่างโรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) ต้องพ่ายแพ้ให้กับ อบเชย

งานวิจัยจาก Journal of Diabetes Science and Technology ที่ศึกษาประโยชน์ของอบเชยต่อสุขภาพ ได้ทำการทดลองโดยแบ่งอาสาสมัครที่เป็นโรคอ้วนลงพุง 22 คนออกเป็น 2 กลุ่ม มีเพียงกลุ่มแรกที่ได้ดื่มน้ำสกัดจาก อบเชย (Aqueous Extracts of Chinnamon) วันละ 500 มิลลิกรัมนาน 12 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่า กลุ่มที่ได้ดื่มน้ำสกัดจากอบเชย มีระดับน้ำตาลในเลือด ระดับความดันหัวใจบีบตัว (Systolic Blood Pressure) และไขมันในร่างกาบลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับกุล่มที่ไม่ได้ดื่ม

นอกจากนี้ อบเชยในรูปแบบผงก็สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน โดยได้รับการยืนยันจาก วารสาร The Amarican Jurnal of Cinical Nutrition ด้วยการทดลองเติมอบเชยลงในอาหาร 1 ช้อนชา (6 กรัม) หลังจากนั้นให้ชาย และ หญิงที่มีสุขภาพดีกินอาหารดังกล่าว แล้ววัดระดับน้ำตาลในเลือด ผลปรากฏว่า ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร (Postprandial Glucose) ของกลุ่มทดลองลดลงอย่างช้า ๆ

นักวิจัยอธิบายว่า เพราะ อบเชย มีฤทธิ์ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารได้นานขึ้น อาหารจึงถูกลำเลียงไปยังลำไส้ช้า จึงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลที่บริเวณลำไส้เล็ก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังกินอาการลดลงเมื่อเทียบกับการกินอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของอบเชย

การค้นพบนี้จะเป็นประโยชน์ในการวิจัยเพื่อศึกษาการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานต่อไป