เพื่อยืนยันอีกครั้ง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงรวบรวมผลการศึกษาที่ผ่านมาไว้ในวารสาร American Academy of Family Physicians แสดงให้เห็นว่า ข้าวบาร์เลย์ช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอล ร้ายในเลือกอย่างเห็นผลทั้งหญิงและชาย
จากการศึกษา 8 แห่งในผู้ป่วยที่มีระดับไขมันในเลือดสูงจำนวน 391 คน ทดลองให้กินข้าวบาร์เลย์ทุกวันติดต่อกันตั้งแต่ 4 - 12 สัปดาห์ พบว่า คอเลสเตอรอลรวมลดลง 8 - 18 มิลลิกรัม / เดซิลิตร แอลดีแอลคอเลสเตอรอล ลดลง 6 - 14 มิลลิกรัม / เดซิลิตร และไตรกลีเซอไรต์ ลดลง 4 - 20 มิลลิกรัม / เดซิลิตร
นักวิจัยอธิบายว่า ข้าวบาร์เลย์มีส่วนประกอบของเส้นใยละลายน้ำชนิดเบต้ากลูแคนปริมาณสูง จึงช่วยชะลอและลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือด
แม้แต่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) ประเทศสหรัฐอเมริกายังยอมรับ พร้อมอนุญาตให้ผู้ผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของข้าวบาร์เลย์สามารถกล่าวอ้างได้ว่า กินแล้วช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจซึ่งมีสาเหตุมาจากคอเลสเตอรอลสูงได้จริง
เลือกและเก็บข้าวบาร์เลย์ให้คงคุณภาพดึ
เพราะมีประโยชน์สำหรับคนทุกวัย ข้าวบาร์เลย์ จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เราสามารถหาซื้อข้าวบาร์เลย์ได้ทั่วไปตามร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพถึงกระนั้นก็ควรเลือกซื้อและเก็บรักษาอย่างพิถีพิถันสักหน่อย เพื่อให้ได้คุณประโยชน์เต็มเมล็ด เราเลยแนะนำวิธีสังเกตข้าวบาร์เลย์คุณภาพดีว่า ควรบรรจุในถุงปิดสนิท ระบุวันหมดอายุชัดเจน เมล็ดข้าวอยู่ในสภาพดี ไม่มีเศษแหลกละเอียดของเยื่อหุ้มเมล็ดปะปน
หลังเปิดถุง ควรมัดปากถุงให้แน่น เก็บในกล่องพลาติกที่มีฝาปิด วางในที่โปร่งมีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้เมล็ดข้าวบาร์เลย์คายน้ำจนเกิดความชื้น ส่งผลให้อายุการเก็บรักษาสั้นลง
หุงข้าวบาร์เลย์ให้อร่อย
ซาวข้าวบาร์เลย์เพียง 1 ครั้งเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนา จากนั้นหุงข้าวบาร์เลย์กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 ในหม้อหุงข้าวปกติ หรือหากอยากให้เมล็ดข้าวนุ่มยิ่งขึ้น ให้เพิ่มน้ำสะอาดเป็น 3 ส่วนกินข้าวบาร์เลย์ให้อร่อยได้หลากหลายวิธี เช่น กินผสมกับข้าวซ้อมมือ ถั่ว งาน กินพร้อมน้ำเต้่าหู้ ในตอนเช้า ทำเป็นของหวาน ก็อร่อยแถมยังได้สุขภาพที่ดีอีกต่างหากนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น