กินมะระขม ข่มเบาหวาน

มะระ 

เป็นผักสำคัญชนิดหนึ่งของครัวเอเชีย ทั้งไทย จีน แตกต่างกับชาวตะวันตกที่ไม่เคยได้ลิ้มลองรสของมะระ เมื่อได้ลิ้มลองความขมของมะระต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กินแล้วคล่องคอ และทำให้รู้สึกเจริญอาหารอีกด้วย




ชาวตะวันตกก็ยังได้ศึกษาอีกว่า ความขมของมะระนั้น เกิดจากสารชนิดใดเป็นประโยชน์หรือเกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่  ซึ้งเมื่อได้ทำการศึกษาจะพบว่า

มะระจีนและมะระขี้นก นั้นมีรสขมได้เพราะสารแอลคาลอยด์ชื่อ โมโมติชิน (momodicine) ซึ่งนอกจากให้รสขมแล้วยังมีสรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหารและเป็นยาระบายอ่อน ๆ 

และภายใต้ผิดอัยขรุขระของมะระนั้นยังพบว่า มีสาร ชาแรนทิน (Charantin) และพอลิเพปไทด์-พี (Polypeptide-p ) ซึ่งสามารถลดเบาหวานได้ โดยจะไปกระตุ้นการเปลี่ยนกลูโคสในกระแสเลือดให้เป็นไกลโคเจนที่ตับ และกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ซึ่งผลจากการศึกษานี้ทำให้ แพทย์ทางเลือกในประเทศต่าง ๆ แนะนำให้ใช้มะระคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะวันละ 3 ครั้งให้กับผู้ป่วยเบาหวานเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด

มะระที่นิยมนำมาทำอาหารมีอยู่ 2 ชนิดคือ มะระจีน และ มะระขี้นก ซึ่งมะระจีนจะมีลักษณะลูกโตยาวสีเขียวอ่อน ผิวมีรอยหยักเป็นร่องยาวทั้งลูก ส่วนมะระขี้นกนั้นจะมีผลเล็กกว่ามะระจีน สีเขียวเข้มผิวขรุขระ โดยทั้ง 2 ชนิดนั้นมีความขมเหมือนกัน  แต่มะระขี้นกนั้นจะมีรสขมมากกว่า และมะระขี้นกยังนิยมไปทำวิจัยมากกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการต้านเชื้อ HIV และ มะเร็ง แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการแพ้ผักตระกูลแตง ,​ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคตับ นั้นไม่ควรที่จะบริโภคมะระขี้นก นะครับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานนะครับ